พัฒนาการเด็กทารกและการเจริญเติบโตของเด็กทารกตั้งแรกเกิดถึง 1 ปีแรกถือเป็นช่วงเวลาที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วเด็กจะมีพัฒนาการและทักษะในด้านต่าง ๆ เช่น การพลิกตัว การลุกขึ้นนั่ง คลาน เดิน โบกมือ พัฒนาการเหล่านี้เด็กส่วนใหญ่จะสามารถทำได้เมื่ออายุครบ 1 ปี ในช่วงปีแรกนี้สมองของเด็กทารกจะเริ่มพัฒนาทักษะด้านความจำและภาษา โดยเด็กจะเริ่มเรียนรู้จากการฟัง รู้จักชื่อตัวเอง คนรอบข้างและสิ่งของต่าง ๆ นอกจากนี้เด็กวัยนี้จะรับรู้ได้ถึงความรักและความไว้วางใจจากการกอด สัมผัส และการเล่น การมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ของเด็กช่วงแรกเกิดถึง 1 ปีแรก จะเป็นรากฐานสำคัญสำหรับการก้าวเข้าสู่วัยช่วงวัยอื่น ๆ ต่อไป ดังนั้น คุณพ่อ คุณแม่ ผู้ปกครองควรส่งเสริมและสังเกตพัฒนาการของเด็กในวัยทารกว่ามีพัฒนาการเหมาะสมกับช่วงวัยหรือไม่เพื่อการเจริญเติบโตที่สมบูรณ์ของเด็ก
พัฒนาการเด็กทารกทางด้านกายภาพ และการเคลื่อนไหว
ส่วนใหญ่แล้วเด็กทารกแรกเกิดมีการเจริญเติบโตและพัฒนาการอย่างรวดเร็วในช่วงปีแรกของชีวิต ได้แก่
- เมื่ออายุประมาณ 5 เดือนน้ำหนักและส่วนสูงจะเพิ่มเป็น 2 เท่า และเมื่ออายุครบ 1 ปี จะเพิ่มขึ้นประมาณ 3 เท่าของน้ำหนักและส่วนสูงช่วงแรกเกิด
- ขนาดศีรษะและสมองของเด็กแรกเกิดถึง 3 เดือน จะยังมีกระดูกกระโหลกศีรษะไม่เต็ม สมองจะพัฒนาขึ้นประมาณ 50% และเซลล์สมองเพิ่มมากขึ้นเมื่ออายุ 6 เดือน ถึง 1 ปี
- เด็กแรกเกิดเริ่มเรียนรู้ที่จะควบคุมร่างกาย
- ช่วงอายุ 1-3 เดือน จะเริ่มควบคุมศีรษะ เริ่มพลิกคว่ำตัว ยกแขนขา เริ่มพลิกจากคว่ำเป็นหงาย
- ช่วงอายุ 4-6 เดือน จะสามารถคว่ำตัวได้นานขึ้น เด็กวัยทารกจะเริ่มคว้าของ กลิ้งไปมา นั่งพิง
- อายุ 7-9 เดือนจะสามารถนั่งเองได้เก่งขึ้น และเริ่มฝึกคลาน ไต่ ปีน
- อายุ 10-12 เดือน เด็กจะสามารถยืนเองได้ เดินจับสิ่งของ เริ่มเดินช้า ๆ โดยไม่ต้องพยุง
- เด็กวัยนี้จะมีการพัฒนาของระบบประสาทส่วนกลาง ซึ่งจะเป็นตัวกำหนดระดับความพร้อมที่เกี่ยวข้องกับการเคลื่อนไหวร่างกาย
พัฒนาการเด็กทารกทางด้านสติปัญญา
เด็กวัยทารกมีความสามารถในการเรียนรู้และจดจำสิ่งต่าง ๆ พัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กในช่วงนี้จะเน้นไปที่การรับรู้ประสบการณ์ผ่านประสาทสัมผัสต่าง ๆ เช่น
- การมองเห็น
- การได้ยิน
- การสัมผัส
- การดมกลิ่น และการรับรส
โดยพัฒนาการทางสติปัญญาของเด็กในช่วงวัยทารก สามารถแบ่งออกเป็น 3 ระยะ ได้แก่ ระยะการรับรู้ (0-3 เดือน) ระยะการประสานสัมพันธ์ (3-6 เดือน) และระยะการเริ่มต้นคิด (6-9 เดือน)
พัฒนาการเด็กทารกทางด้านอารมณ์และสังคม
เด็กวัยนี้เริ่มจะเข้าใจและมีแสดงอารมณ์ต่าง ๆ เรียนรู้ที่จะสร้างความสัมพันธ์กับผู้อื่น และเรียนรู้ที่จะอยู่ในสังคม โดยปัจจัยที่ส่งผลต่อพัฒนาการทางอารมณ์และสังคมของเด็ก ได้แก่ พันธุกรรม สภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู และการกระตุ้นจากผู้ใหญ่ โดยอาจแบ่งระยะของพัฒนาการด้านอารมณ์ของเด็กวัยนี้ได้เป็น
- ช่วงอายุ 0-3 เดือน แรกจะเริ่มสบตาและเริ่มส่งเสียง ร้องไห้เพื่อสื่อสารความต้องการ ยิ้มตอบสนองเมื่อได้รับการกระตุ้น เริ่มจดจ่อมองใบหน้าคน เริ่มตกใจเสียงดัง
- ช่วงอายุ 4 – 6 เดือน เริ่มแสดงอารมณ์ต่าง ๆ เช่น ดีใจ เสียใจ โกรธ กลัว เริ่มจดจำคนเลี้ยงดู เริ่มเล่นกับของเล่น เริ่มหันมามองเมื่อได้ยินชื่อ
- ช่วงอายุ 7 – 9 เดือน เริ่มกลัวคนแปลกหน้า เริ่มพูดคำง่าย ๆ เข้าใจคำสั่งง่าย ๆ
- ช่วงอายุ 10 – 12 เดือน เริ่มแสดงอารมณ์ที่ซับซ้อนมากขึ้น และเริ่มเลียนแบบพฤติกรรมของผู้ใหญ่
พัฒนาการเด็กทารกทางด้านภาษาและการสื่อสาร
พัฒนาการทางด้านภาษาและการสื่อสารของเด็กวัยทารกจะเริ่มต้นตั้งแต่แรกคลอด
- เด็กจะเรียนรู้ภาษาผ่านการฟัง การมอง การเลียนแบบ และการโต้ตอบกับผู้อื่น
- เด็กจะร้องไห้เพื่อสื่อสารความต้องการ เช่น หิว ร้อน ไม่สบาย เริ่มส่งเสียงอ้อแอ้ เล่นเสียง
- เริ่มหันหน้ามาสนใจเมื่อได้ยินเสียงพูด
- เริ่มเลียนเสียงที่ได้ยิน
- เริ่มเข้าใจคำง่าย ๆ เช่น “ไม่” “มา” “บ๊ายบาย” และพัฒนาขึ้นเรื่อย ๆ ตามช่วงอายุ
- เด็กจะสามาารถพูดคำง่าย ๆ ได้ 2-3 คำ และเข้าใจคำสั่งง่าย ๆ
ตารางพัฒนาการเด็กทารก วัยแรกเกิด -1 ปี
ช่วงอายุ | พัฒนาการ |
---|---|
0-2 เดือน |
|
2-4 เดือน |
|
4-6 เดือน |
|
6-8 เดือน |
|
8-10 เดือน |
|
10-12 เดือน |
|
การดูแลเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการเด็กทารก วัยแรกเกิด -1 ปี
การดูแลเพื่อเสริมสร้างพัฒนาการในช่วงวัยทารกแรกเกิดถึง 1 ปี มีดังนี้
1. ด้านร่างกาย
- จัดอาหารที่เหมาะสมกับวัย ทั้งนมแม่และอาหารตามวัย เพื่อการเจริญเติบโตที่ดี
- ออกกำลังกายง่าย ๆ เช่น การนวดกดจุด การให้เด็กนอนคว่ำเล่นของเล่น เพื่อกระตุ้นพัฒนาการด้านเคลื่อนไหวและการใช้กล้ามเนื้อ
- ดูแลสุขอนามัยอย่างเหมาะสม อาบน้ำ และให้เด็กนอนหลับพักผ่อนอย่างเพียงพอ
2. ด้านอารมณ์และสังคม
- สร้างความผูกพันกับเด็กด้วยการโอบกอด สบตา สัมผัส สื่อสารทางสายตา
- อ่านหนังสือ เล่นของเล่นด้วยกัน และพูดคุย เพื่อเสริมสร้างการมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างเด็กกับพ่อแม่ หรือผู้ปกครอง
- พาเด็กออกไปพบปะผู้คนใหม่ ๆ เพื่อฝึกทักษะทางสังคม
3. ด้านสติปัญญาและการรู้คิด
- จัดสภาพแวดล้อมให้ปลอดภัย เหมาะกับการเรียนรู้และค้นหาด้วยตนเอง
- ให้ของเล่นกระตุ้นประสาทสัมผัสต่าง ๆ เช่น ผ้านุ่ม ๆ กระดิ่ง หรือของเล่นที่มีเสียงกุ๊งกิ๊ง
- หากิจกรรมที่ท้าทายให้เด็กฝึกการสังเกต สำรวจ และแก้ไขปัญหาง่าย ๆ
4. ด้านภาษา
- พูดคุยกับเด็กสม่ำเสมอ แม้ว่าเด็กจะยังไม่เข้าใจคำพูดทั้งหมด แต่การพูดคุยจะช่วยพัฒนาทักษะการฟังและการเรียนรู้ภาษา
- ร้องเพลงให้ฟัง ท่องคำคล้องจอง และโต้ตอบกับเสียงเรียกของเด็ก
- เล่าเรื่อง อ่านหนังสือให้เด็กฟังอย่างสม่ำเสมอ เพื่อเพิ่มทักษะการเข้าใจความหมาย
การดูแลในด้านต่าง ๆ เหล่านี้จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการของเด็กทารกทั้งทางร่างกาย อารมณ์ สังคม สติปัญญา และภาษา ไปพร้อม ๆ กัน
สรุป
พัฒนาการของเด็กทารกแรกเกิดถึง 1 ปี มีความสำคัญต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็กในด้านต่าง ๆ ไม่ว่าทางร่างกาย อารมณ์ สังคม และสติปัญญา และเป็นพื้นฐานสำคัญของพัฒนาการในวัย 1-3 ปี
อย่างไรก็ตาม พัฒนาการของเด็กแต่ละคนมีความแตกต่างกัน การเฝ้าติดตามพัฒนาการของเด็กอย่างใกล้ชิดและส่งเสริมพัฒนาการที่เหมาะสม รวมไปถึงการพาเด็กไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพกับกุมารแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ทั้งนี้เพื่อติดตามการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก และรับคำแนะนำจากแพทย์ รวมไปถึงการให้เด็กเข้ารับวัคซีนป้องกันโรคตามวัย ก็จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพของเด็กและช่วยให้เด็กมีสุขภาพพื้นฐานที่ดีที่เอื้อต่อการเรียนรู้และการใช้ชีวิตในอนาคตต่อไป