ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน (Heart attact) หรือที่เรารู้จักในอีกชื่อหนึ่งว่าโรคกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน(Acute myocardial infarction) เป็นภาวะฉุกเฉินทางการเเพทย์ที่อันตรายและมีอัตราการเสียชีวิตค่อนข้างสูง ภาวะหัวใจวายเฉียบพลันมักไม่มีสัญญาณเตือน อาการส่วนใหญ่เกิดขึ้นแบบฉับพลัน ซึ่งระยะเวลาเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดในการรักษาภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันถ่วงที อาจส่งผลให้หัวใจถูกทำลายอย่างถาวรและนำไปสู่การเสียชีวิตในที่สุด ดังนั้นสิ่งที่เราสามารถทำได้คือลดปัจจัยเสี่ยงต่อการเกิดภาวะหัวใจวาย ด้วยการตรวจสุขภาพเป็นประจำ หมั่นสังเกตตนเองหากมีอาการผิดปกติ เพื่อเป็นการป้องกันตนเองจากภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน
ภาวะหัวใจวายเฉียบพลันคืออะไร
ภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน (Heart attact) คือภาวะที่เกิดจากกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลัน (Acute myocardial infarction) เนื่องจากเกิดลิ่มเลือดอุดตันแบบฉับพลันที่บริเวณของหลอดเลือดหัวใจทำให้กล้ามเนื้อหัวใจไม่ได้รับเลือดเเละออกซิเจนไปเลี้ยง ซึ่งโรคหลอดเลือดหัวใจ (Coronary artery disease) เป็นสาเหตุหลักของภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที จะส่งผลให้เสียชีวิตแบบกระทันหันได้
ภาวะหัวใจวายเฉียบพลันเกิดจากอะไร
ภาวะหัวใจวายเฉียบพลันหรือกล้ามเนื้อหัวใจตายเฉียบพลันเกิดจากมีการสะสมของไขมันบริเวณผนังหลอดเลือดหัวใจ ไขมันเหล่านี้หากสะสมเป็นเวลานานจะรวมตัวเป็นตะกรัน (plaque) อุดตันบริเวณผนังหลอดเลือดหัวใจ เมื่อหลอดเลือดเริ่มเสื่อมสภาพจากไขมันปริมาณมากจึงเกิดการปริแตกของผนังหลอดเลือด จากนั้นหลอดเลือดจะทำการซ่อมแซมตัวเองและเกิดการกระตุ้นทำให้เกิดลิ่มเลือดหลุดไปอุดตันที่หลอดเลือดหัวใจ ส่งผลให้หลอดเลือดหัวใจขาดเลือดและออกซิเจนไปเลี้ยง ทำให้หัวใจหยุดเต้นแบบกระทันหันหรือเกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน และเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต
อาการของภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน
อาการของภาวะหัวใจวายเฉียบพลันที่พบได้มีดังนี้
- แน่นหน้าอกเหมือนมีของหนัก ๆ มากดทับ
- เจ็บหน้าอกร้าวไปบริเวณต่าง ๆ เช่น ไหล่ กราม คอหรือบริเวณหลัง
- หายใจหอบเหนื่อย หรือเหนื่อยขณะออกเเรง
- เหงื่อออกมากผิดปกติ
- คลื่นไส้ อาเจียน
- เวียนศรีษะหรือมีอาการหน้ามืด ใจสั่น หมดสติ
- ในบางกรณีอาการรุนเเรง อาจพบผู้มีภาวะหัวใจวายเฉียบพลันมีอาการ หยุดหายใจเเละหัวใจหยุดเต้น ควรโทรเเจ้งสายด่วน 1669 ทันที เพื่อทำการกู้ชีพอย่างเร่งด่วน
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน
ปัจจัยเสี่ยงที่ทำให้เกิดภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้แก่
- ความเสื่อมตามอายุโดยจะพบความเสี่ยงภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้ตั้งเเต่ผู้ที่มีอายุ 45 ปีขึ้นไป
- ภาวะไขมันในเลือดสูง
- โรคความดันโลหิตสูง
- โรคเบาหวาน
- โรคอ้วนเเละภาวะน้ำหนักเกิน
- ความเครียด
- การสูบบุหรี่เเละการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
- รับประทานอาหารที่มีปริมาณไขมันสูงและโซเดียมสูง
- พันธุกรรม หรือมีประวัติคนในครอบครัวเป็นภาวะหัวใจวายเฉียบพลันเเละโรคหลอดเลือดหัวใจ
การวินิจฉัยภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน
- การซักประวัติเเละการตรวจร่างกายโดยเเพทย์
- การตรวจคลื่นหัวใจ (electrocardiography; ECG หรือ EKG)
- การตรวจหัวใจด้วยคลื่นเสียงสะท้อนความถี่สูง (echocardiography)
- การตรวจเลือดเพื่อดู ค่าเอนไซม์การทำงานของหัวใจ
- การตรวจเอกซเรย์ทรวงอก (chest x-ray)
- การตรวจสวนหัวใจ (coronary artery angiography; CAG)
การรักษาภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน
แนวทางการรักษาภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้แก่
- การขยายหลอดเลือดหัวใจและการใส่ขดลวด (percutaneous coronary intervention; PCI) ที่เรียกว่าการทำบอลลูนขยายหลอดเลือด หรือฉีดสีสวนหัวใจ โดยแพทย์จะทำการใส่อุปกรณ์เป็นท่อขนาดเล็กเข้าไปทางหลอดเลือด เพื่อขยายหลอดเลือดแดงบริเวณที่มีการอุดตัน ให้เลือดสามารถไหลผ่านได้ ในบางรายอาจมีการวางขดลวดเพื่อป้องกันความเสี่ยงไม่ให้กลับมาตีบซ้ำ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับแพทย์เป็นผู้พิจารณา
- การรักษาด้วยยาเพื่อบรรเทาอาการ ป้องกันความเสี่ยงเกิดหลอดเลือดตีบตันซ้ำ และลดอัตราการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน ถึงแม้จะรักษาด้วยวิธีการขยายหลอดเลือดหัวใจแล้วก็ตาม การรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอยังมีความสำคัญและควรปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
- ผ่าตัดทำทางเบี่ยงหลอดเลือดหัวใจ (coronary artery bypass grafting; CABG) คือการใช้หลอดเลือดดำหรือหลอดเลือดแดงบริเวณอื่น มาทดแทนหลอดเลือดเดิมที่มีการตีบตัน โดยพิจารณาจากผู้ที่มีหลอดเลือดอุดตันหลายตำแหน่งและมีความเสี่ยงสูงในการขยายหลอดเลือดหัวใจและการใส่ขดลวด
การป้องกันภาวะหัวใจวายเฉียบพลัน
- ตรวจสุขภาพประจำปีเป็นประจำเพื่อคัดกรองเเละเฝ้าระวังโรคเบื้องต้น
- ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ อย่างน้อยสัปดาห์ละ 3 วัน วันละ 30 นาทีขึ้นไป เเละหากมีโรคประจำตัวเรื้อรังควรออกกำลังกายตามคำเเนะนำของเเพทย์
- เลิกสูบบุหรี่ ดื่มสุราและการใช้สารเสพติดทุกชนิด
- ปรับการรับประทานอาหาร หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง ลดการทานอาหารที่ปริมาณเกลือหรือโซเดียมสูง
- ควบคุมน้ำหนักตัวให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม
- หากมีโรคประจำตัวที่เป็นปัจจัยเสี่ยง เช่น โรคความดันสูง ไขมันสูง เบาหวาน ควรรับประทานยาอย่างสม่ำเสมอและดูแลตัวเองตามคำแนะนำของแพทย์
- ดูแลตัวเองไม่ให้เกิดความเครียด พักผ่อนให้เพียงพอ
สรุป
ภาวะหัวใจวายเฉียบพลันเป็นภาวะฉุกเฉินทางการเเพทย์ที่เกิดขึ้นแบบฉับพลันและรุนแรง อาจทำให้เสียชีวิตได้ โดยมีสาเหตุหลักมาจากโรคหลอดเลือดหัวใจตีบทำให้กล้ามเนื้อหัวใจตายเลือดเฉียบพลัน ส่วนใหญ่ไม่รู้ตัวหรือไม่มีอาการแสดงที่ชัดเจนมาก่อน สิ่งที่สำคัญเกี่ยวกับภาวะหัวใจวายเฉียบพลันคือการมีความรู้ความเข้าใจ รู้ปัจจัยเสี่ยงและวิธีการป้องกัน สังเกตอาการเตือน ซึ่งการได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ทำให้ช่วยลดอัตราการเสียชีวิตจากภาวะหัวใจวายเฉียบพลันได้